The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง

The Huntsman: Winter's War (2016) เต็มเรื่อง

The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง ลักษณะเด่นประการหนึ่งของ “Winter’s War” คือการเน้นไปที่ตัวละครหญิงที่แข็งแกร่ง ทั้งราชินีราเวนนาและราชินีน้ำแข็ง เฟรย่า ต่างก็มีพลังและซับซ้อน ผู้ที่ท้าทายทัศนคติแบบเหมารวมในเทพนิยายแบบดั้งเดิม ชาร์ลิซ เธอรอนและเอมิลี่ บลันท์นำเสนอการแสดงที่น่าดึงดูดใจซึ่งยกระดับตัวละครให้เหนือกว่าแค่ศัตรูตัวฉกาจ โดยเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอ ความปรารถนา และจุดแข็งของพวกเขา นอกจากนี้ ซารา ตัวละครของเจสซิกา แชสเทน ยังมีส่วนร่วมในธีมของภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับการเสริมพลังของผู้หญิงผ่านทักษะการต่อสู้และความยืดหยุ่นของเธอ

ความคลุมเครือทางศีลธรรม:ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจความคลุมเครือทางศีลธรรมและผลที่ตามมาจากการเลือกของตัวละคร ขณะที่การเล่าเรื่องดำเนินไป ตัวละครต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ซึ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่วพร่ามัว ความซับซ้อนทางศีลธรรมนี้เพิ่มความลึกให้กับเรื่องราว กระตุ้นให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงแรงจูงใจและการกระทำของตัวละคร และท้าทายแนวคิดเรื่องความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างฮีโร่และผู้ร้าย

การสร้างโลก:”Winter’s War” ขยายขอบเขตของจักรวาลสโนว์ไวท์ด้วยการแนะนำอาณาจักรใหม่ ซึ่งแต่ละแห่งมีบรรยากาศและผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกันออกไป จากความงามอันบริสุทธิ์ของป่ามหัศจรรย์ไปจนถึงภูมิประเทศน้ำแข็งทางตอนเหนือ การสร้างโลกของภาพยนตร์เรื่องนี้มีส่วนทำให้เกิดคุณภาพที่ดื่มด่ำ ความใส่ใจในรายละเอียดในการออกแบบการผลิตและการสร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ชมในอาณาจักรมหัศจรรย์แห่งนี้

The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง

ดูหนังออนไลน์ The Huntsman: Winter's War (2016)

โครงสร้างการเล่าเรื่อง:โครงสร้างการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ที่ผสมผสานองค์ประกอบภาคก่อนและภาคต่อเข้าด้วยกัน ได้เพิ่มชั้นที่น่าสนใจให้กับการเล่าเรื่อง การย้อนอดีตและไทม์ไลน์แบบขนานถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บริบทเกี่ยวกับต้นกำเนิดของตัวละครในขณะที่ดำเนินโครงเรื่องปัจจุบัน โครงสร้างการเล่าเรื่องแบบคู่นี้ช่วยเพิ่มความซับซ้อนโดยรวมของภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมเข้าใจแรงจูงใจของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

นักแสดงทั้งมวล:นักแสดงทั้งมวล ได้แก่ คริส เฮมส์เวิร์ธ, ชาร์ลิซ เธอรอน, เอมิลี่ บลันท์ และเจสซิกา แชสเทน มีส่วนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์ นักแสดงนำความสามารถพิเศษและความลุ่มลึกมาสู่บทบาทของตน OMG666 เป็นการยกระดับคุณภาพโดยรวมของการแสดง เคมีที่เข้ากันระหว่างนักแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งและความสนิทสนมกัน ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับความสัมพันธ์ของตัวละคร

ดนตรีและโน้ต:ดนตรีประกอบของเจมส์ นิวตัน ฮาวเวิร์ดช่วยเติมเต็มบรรยากาศแฟนตาซีของภาพยนตร์ การเรียบเรียงดนตรีออเคสตราที่ไพเราะและท่วงทำนองที่ชวนขนลุกช่วยเพิ่มผลกระทบทางอารมณ์ของฉากสำคัญๆ สร้างภาพเสียงที่สะท้อนกับองค์ประกอบที่มหัศจรรย์และน่าทึ่งของภาพยนตร์ ดนตรีกลายเป็นส่วนสำคัญของการเล่าเรื่อง เพิ่มการเชื่อมโยงของผู้ชมกับการเล่าเรื่องที่กำลังเปิดเผย

มรดกและความเป็นไปได้ในอนาคต:แม้ว่า “Winter’s War” อาจไม่ตรงกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภาคก่อน แต่ก็มีส่วนช่วยในมรดกที่สืบทอดมาจากแฟนตาซีมืดที่ดัดแปลงมาจากนิทานคลาสสิก การสำรวจจักรวาลสโนว์ไวท์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดประตูสู่เรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตภายในดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจที่ยั่งยืนของเทพนิยายที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับผู้ชมร่วมสมัย

โดยสรุป The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง ผสมผสานองค์ประกอบของแอ็คชั่น แฟนตาซี และเทพนิยายเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและสะท้อนอารมณ์ ด้วยตัวละครหญิงที่แข็งแกร่ง ความซับซ้อนทางศีลธรรม และการสร้างโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอธีมเทพนิยายคลาสสิกที่โดดเด่น ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสการเดินทางที่น่าหลงใหลและน่าดึงดูดในมุมที่มืดมนของจักรวาลแฟนตาซีอันเป็นที่รัก

โดยในภาคนี้หนังได้ตัด Snow White ที่สวมบทโดย Kristen Stewart ออกไป

The Huntsman: Winter's War (2016) เต็มเรื่อง

เล่าราวของผู้แสดงใหม่อย่าง เฟรคุณย่า แล้วก็ภูมิหลังผู้แสดงเดิมอย่าง อีริค พูดได้ว่าเป็นการท้าวความถึงตอนก่อนเหตุในหนังภาคแรกนั่นเอง ตัวหนังจัดว่าทำออกมาได้ดีมากว่าเรื่อง Snow White and the Huntsman มากมาย ไม่เคยรู้ว่าเป็นเนื่องจากตัดบทสโนว์ไวท์ออกไปหรือไม่?

ใช่ไม่ใช่ไม่เคยรู้ แม้กระนั้นมีหลายๆคน Complaint ว่า Kristen Stewart เล่นได้แข็งทื่อมากมาย สำหรับนายพรานป่าและก็ราชินีน้ำแข็งนั้น พูดได้ว่า เสมือนเป็นการรวมดาวฮอลลีวูดเช่นไรแบบนั้น ตัวดารานำอีกทั้ง 4 คน เล่นก้าวหน้ามากมายๆจริงๆ

ภาคนี้จุดที่ผมว่าเข้าที เป็นเหล่าศิลปินน่ะนะครับ จัดว่าน่าดึงดูดขึ้นกว่าภาคก่อน Hemsworth นับว่าเป็นผู้แสดงนำชายตัวนำแบบเต็มกำลัง รวมทั้งได้แสดงอะไรเยอะขึ้น คาแรคเตอร์มีหลากมุมมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ส่วน Jessica Chastain ในบท ซาร่า คู่แต่งงานของนายพรานป่า คุณคนนี้ก็แสดงได้ดิบได้ดีเท่าที่บทจะให้ครับผม

Blunt ก็หายห่วงครับผม เป็นเฟรคุณย่าได้โอเค ก็แค่บทบางทีอาจไม่มากมายมากแค่ไหน รวมทั้งรายที่บทน้อยสุดก็คือ Theron ขอรับ ด้วยเหตุนี้แม้ผู้ใดกันมุ่งหวังจะได้มอง Theron แสดงความสามารถล่ะก็ อาจจำเป็นต้องทำใจสักนิดสักหน่อย เพราะว่าบทน้อยกว่าภาคที่แล้วซะอีกนะครับ (แต่ว่าขั้นต่ำตอนพี่สาวเอ็งแสดงตัว ก็ดึงความพอใจจากผู้ชมได้ทุกครั้งล่ะน่า)

งาน Effect วิธีพิเศษ และก็คอสตูมจัดว่าน่าพึงพอใจในฐานะหนังแฟนตาซีนะครับ แต่ว่าหากเอ๋ยถึงในทางปาฏิหาริย์แล้วจัดว่าน้อยกว่าภาคก่อน โดยเหตุนั้นหากคนใดกันมุ่งมาดฉากแฟนตาซีจัดๆก็บางทีอาจจำต้องลดความมุ่งมาดลงสักนิดหน่อยครับผม (แม้กระนั้นฉากตีกันช่วงท้ายก็จัดว่าทำเป็นไม่เลวอยู่เช่นกัน)

The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง เรื่องราวภาคนี้ดำเนินต่อจากตอนสุดท้ายของภาคแรก แต่ว่าออกห่างจากนิทานสโนไวท์ไปไกลลิบลับ บทสโนไวท์ เหลือเพียงแค่ชื่อที่ถูกเอ่ยถึงแค่นั้น เฟรยา นักแสดงใหม่เป็นราชินีน้ำแข็งทำให้รายละเอียดมองไปคล้ายกับ Frozen เสียมากกว่า เฟรคุณย่า เป็นน้องสาวของ ราเวนน่า ราชินีโฉด คุณเคยอยู่กับราเวนน่า แต่ว่าผิดหวังจากความรักเลยหลีกตัวไปสร้างอาณาจักรน้ำแข็งทางทางเหนือ เมื่อรู้ข่าวสารว่าพี่สาวคุณถูกสโนไวท์กำจัดแล้ว คุณก็เลยส่งกองทหารให้ไปเอากระจกดีเลิศมาให้คุณรักษาไว้ ส่วนพระราชโอรสของสโนไวท์ก็มอบหมายให้อีริคตามไปทำลายกระจกดีเลิศนั้นซะก่อนกำลังจะถึงมือเฟรคุณย่า

เมื่อปี 2012 ได้มอง Snow White and the Huntsman ไป คิดออกว่าค่อนข้างจะเจ็บไข้ อีกทั้ง Kristen Stewart แล้วก็ Chris Hemsworth เอาหนังไม่อยู่เลย แม้กระนั้นพอเพียงมองเห็น The Huntsman Winter’s War มีสามตัวแม่ Emily Blunt, Charlize Theron, แล้วก็ Jessica Chastain มาปะทะกัน ก็แอบคาดหมายความปังของเหล่านางอยู่ไม่มากมายก็น้อย

แต่ว่าผลออกมา พวกเราคิดว่าตัวแม่อีกทั้งสามนางมิได้เป๊ะปังอย่างที่คาด แม้ว่าแม่ๆเอ็งก็ปฏิบัติภารกิจของมึงคืนดีกันแล้ว อืม พวกเราว่าสำคัญๆที่มันไม่ปัง น่าจะเป็นเนื่องจากหนังมันขาดเอกลักษณ์ในตัวมันมากยิ่งกว่าล่ะ กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันบากบั่นเป็น fairy tales เรื่องอื่นมากจนเกินไป จนกระทั่งลืมธีมนายพรานป่าของตัวเอง

ภาคใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียกภาคต่อไหม แต่ว่าเพียงแค่ชื่อหนังก็แปรไปแล้ว ใช้ ‘The Huntsman Winter’s War’ เสมือนซีรีส์นี้ผู้ผลิตจะเน้นที่ตัวเหล่านายพรานมากยิ่งกว่า ที่เหลือก็เลือกเอาว่าจะเล่าตำนานสโนว์ไวท์ หรือแม้กระทั้งราชินีทั้งหลายแหล่ที่ล้อมรอบตัวเหล่านายพราน

The Huntsman: Winter’s War … นายพรานป่าแล้วก็ราชินีน้ำแข็ง

เป็นภาพยนตร์ที่เป็นทั้งยังภาคต่อแล้วก็ภาคก่อนหน้าของ Snow White and the Huntsman เมื่อปี 2012 กล่าวถึงเรื่องราวของการช่วงชิงอำนาจระหว่างสองญาติราชินีมหาเวทย์ระหว่าง “เฟรคุณย่า” (เอมิลี่ บลันท์) ราชินีน้ำแข็ง ผู้น้องผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี รวมทั้ง “ราเวนน่า” (ชาร์ลิซ คุณรอน) ราชินีภูติผีปีศาจ

ผู้พี่ที่พร้อมจะสั่งสมกองกำลังอันเลวทรามเพื่อครอบครองโลก การต่อสู้ระหว่างสองลูกพี่ลูกน้องที่มีชายยอดเยี่ยมความสามารถอย่าง “อีริค” (คริส เฮมสเวิร์ธ) นายพรานป่า และก็ “ซาร่า” (เจสสิก้า แชสเทน) นักสู้สาวผู้หนักแน่นเป็นตัวแปรของมหาการรบคราวนี้ ระวังให้ดี เนื่องจากสนามรบนี้เต็มไปด้วยอุบายที่ยากจะเอาชนะได้!

อย่างไรก็แล้วแต่เรื่องราวของภาคแรกก็จบบริบูรณ์ในตัวมันเองไปแล้วสโนไวท์จับชัยเหนือราเวนท้องนาแล้วก็ทวงบัลลังก์ของตนเองคืนมาได้ แต่ว่าเมื่อหนังทำเงินภาคต่อก็ต้องตามออกมาแล้วก็แน่ๆว่าการถอนตัวของนางเอกภาคที่แล้วย่อมทำให้หนังต้องหาจุดขายใหม่และก็กรรมวิธีเล่าใหม่ ด้วยการนำพาราเวนน่ากลับมาฟื้นขึ้นด้วยอีกที

รวมทั้งหนังก็ยังคงใช้กระบวนการเล่าแบบ ภาคต้นและก็ภาคถัดไปพร้อมเพียงกัน เพื่อปูเรื่องราวไปอีกทางหนึ่งด้วยการบอกว่าตามที่เป็นจริงแล้วราเวนนายังมีน้องสาวอย่างเฟรคุณย่า (เอมิลี บลันท์) ที่วันหนึ่งพลังพิเศษอย่างพลังน้ำแข็งของคุณก็ถูกปล่อยออกมาภายหลังที่ลูกน้อยเสียชีวิตในอุบัติเหตุ

The Huntsman: Winter’s War (2016) เต็มเรื่อง นายพรานป่าแล้วก็ราชินีน้ำแข็ง เป็นหนังภาคต่อจาก Snow White and the Huntsman แม้กระนั้นรายละเอียดกลายเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมี Snow White โดยในภาคนี้ได้ตัดผู้แสดงสำคัญอย่าง Snow White ออกไปเนื่องจากว่าข่าวสารแง่ลบของดาราหญิงมีชื่อเสียงอย่าง

“คริสเตียน สจ๊วต” แต่ว่านักแสดงสำคัญอย่าง “อิริค” นายพรานป่า (เล่นบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ) และก็ราชินี “ราเวนน่า” (สวมบทโดย ชาร์ลิซ คุณรอน) ยังอยู่กันครบ แล้วก็มีตัวละครสำคัญมาเพิ่มเข้ามาอีก 2 ตัว เป็นราชินีน้ำแข็ง “เฟรคุณย่า” (เล่นบทโดย เอมิลี บลันต์) รวมทั้ง “ซาร่า” นายพรานป่าหญิง (สวมบทโดย เจสสิกา แชสเทน) หวานใจของนายพรานป่า

ทั้งสิ้นที่เล่ามานี้ราวกับสปอยหนังแม้กระนั้นนี่เป็นมิได้สปอยมากมายไปกว่าหนังตัวอย่างเลย เป็นแบบอย่างหนังนี่แทบเล่าอีกทั้งเรื่องแล้วอ่ะ (อันนี้พร่ำบ่น) อย่างที่เกริ่นไว้แต่ก่อนว่ามิได้ไปดูด้วยหวังว่าจะได้รายละเอียดดีๆยิ่งภาคแรกทำไว้ผิดหัวใจพวกเรา (ให้แต้ม 1 เต็ม 5) ก็ยิ่งไม่มุ่งหวังกับภาคนี้เข้าไปใหญ่ แต่ว่าผลเป็นไม่ผิดหวัง รายละเอียดถึงแม้มิได้ดี จริงๆ

เป็นรายละเอียดออกแนวน้ำเสีย และไม่มีอะไรใหม่ทายใจได้แทบทั้งยังเรื่อง

แต่ว่าการเดินเรื่องก็ทำให้ต้องการติดตามได้ตลอดตั้งแต่ต้นจนถึงจบ หนังหัวข้อนี้ฉากแอคชั่นน่าเร้าใจ มีภาพในมุมงามๆมาก CGI ก็ทำเป็นเนียนตา แล้วก็มีมุกขำขันแทรกอยู่เป็นช่วงๆแม้กระนั้นลักษณะเด่นที่สุดของหนัง เด่นขนาดกลบจุดอ่อนเรื่องบทได้ก็คือการแสดง Emily Blunt เป็นผู้แสดงที่น่าจับตา ความสามารถคุณปรับปรุงขึ้นเรื่อยจริงๆหัวข้อนี้คุณเด่นตรงที่ทำให้บทที่ไม่มีแหล่งที่มาเท่าไรนักให้มีมิติขึ้นได้ Jessica Chastain คนนี้ก็ความสามารถไม่เคยปกติ

เรื่องย่อ : ก่อนที่จะราชินีราเวนา จะสิ้นลมไปด้วยคมกระบี่ของสโนว์ไวท์ คุณมีน้องสาวที่มีพลังน้ำแข็งชื่อว่า เฟรยา คนที่หัวใจสลายเนื่องจากถูกทรยศเรื่องความรัก แล้วหนีออกมาจากอาณาจักรมาสร้างวังอยู่เฉยๆพร้อมด้วยสร้างกองทัพพรานมรณะ ที่มีเอริก กับ ซาร่า เป็นเลิศในกองทหาร แต่ว่าทั้งคู่ก็ทำสิ่งที่ขัดกับหวังของคุณ มันก็คือไม่ยินยอมมีจิตใจที่เย็นชาต่อความรัก

เมื่อเฟรยารู้ดีว่าพี่สาวดับสิ้น คุณก็สั่งให้ทหารไปนำกระจกยอดเยี่ยมกลับมาเนื่องจากเหลือเพียงแค่คุณที่ควบคุมพลังของมันได้ แต่ว่าเมื่อคุณรู้ดีว่าสามารถช่วยชีวิตพี่สาวกลับคืนมาได้ด้วยสีทองคำของกระจก คุณก็รุกรามดินแดนยอดเยี่ยมนั้นด้วยกองทัพดุร้ายที่ร้ายกว่ามากกว่าที่คนไหนกันแน่เคยเจอ ความมุ่งหวังเดียวที่จะเอาชนะคุณอยู่นายนายพรานที่เคยถูกคุณขับไล่ ซึ่งจะต้องต่อสู้เพื่อไปพบกันให้ได้

เกิดเรื่องราวของสองลูกพี่ลูกน้องวงศ์สกุล คนหนึ่งศึกษาค้นพบด้วยความโกรธเคืองว่าคุณมีความรู้และความเข้าใจสำหรับการยิงน้ำแข็งจากปลายนิ้วของคุณ คุณก็เลยขับไล่ตนเองไปยังดินแดนอันไกลห่างบนเทือกเขา ที่ซึ่งคุณสร้างอาณาจักรของคุณเองและก็สร้างคุณขึ้นมา กองทัพของตน คุณยังใส่ชุดปกคลุมสีน้ำเงินอ่อนหลายเฉดและก็รวบผมของคุณกลับด้วยการถักเปียอันวิจิตรบรรจง

เมื่อก่อนที่คุณจะบอกว่า “ปลดปล่อยมันไป” หัวข้อนี้ เรื่องราวภาคต่อ ภาคต่อ บางสิ่งที่อยู่ระหว่าง “Snow White and the Huntsman” ในปี 2012 หัวข้อนี้ได้เอ๋ยถึงแผนย่อยอื่นๆอีกหลายเรื่อง ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงรวมกันนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความสับสน (รวมทั้งอัศจรรย์น้อยกว่า) เรื่องเล่า

ในด้านซีจี นับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างจะดี มีความเนียนตาแล้วก็เกื้อหนุนให้สองราชินีมองสะดุดตาอย่างยิ่งบนหน้าจอ แถมคอสตูมก็งามและก็วิจิตรตระการตามากมาย ทำให้อีกทั้ง เฟรคุณย่า รวมทั้ง ราเวนน่า สองญาติเจิดสว่างขั้นสุดในหนังแฟนตาซีประเด็นนี้ส่วนเรื่องบท ก็อย่างที่คาดกันครับผม ว่าไม่มีอะไรมาก จริงๆแบบอย่างน่ะก็บอกอะไรๆหมดแล้วว่าเรื่องคืออะไร และก็มั่นใจว่าผู้คนจำนวนมากทายใจได้อยู่แล้วล่ะว่าเรื่องจะจบแบบไหน (ซึ่งก็บอกได้เลยว่าเป็นอย่างที่ทายใจนั่นแหละนะครับ ลงสูตรหนังแนวนี้จริงๆ)

โดยรวมแล้วหนังจัดว่าอยู่ในระดับกลางครับผม มีอีกทั้งจุดที่เข้าทีรวมทั้งอ่อนกว่าภาคแรก แม้กระนั้นถ้าหากมองดูรวมๆและก็นับว่าเท่าๆกัน เรียกว่าคนไหนกันแน่ถูกใจภาคแรก ถ้าเกิดจะตามมามองภาคนี้ก็คงจะไม่ถึงกับผิดหวัง หรือหากผู้ใดกันเฉยเมยกับภาคแรกจนถึงไม่คาดหมายแล้ว ก็บางทีอาจจะโอเคกับภาคนี้