สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม

สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม

สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม มาเริ่มกันที่บทกันเลย ตัวหนังใช้เวลาทีแรกๆนานแสนนานไปกับการเล่าเรื่องของนักแสดงหลักอย่าง Miles Morales ชายหนุ่มวัย 15 ปีที่จำต้องแบกรับหลายสิ่งอย่าง ตลอดชีวิตการเล่าเรียน ชีวิตในฐานะซูเปอร์วีรบุรุษ ชีวิตในฐานะลูกที่บิดามารดามุ่งหวังไว้สูง ไปจนกระทั่งชีวิตวัยรุ่นที่ส่วนมากจะจุดโฟกัสไปที่ความรักและก็มิตรภาพ ตัวหนังให้เวลากับส่วนนี้มากมายๆซึ่งมันเห็นผลจริงๆ

มันยิ่งทำให้พวกเราข้างหลังรักนักแสดงนี้มากมายไปอีก สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม แต่ว่าสิ่งที่พิเศษก็คือเขาส่งต่อพาร์ทดราม่านี้ให้มีพลังมากขึ้นด้วยการมัดมันไว้กับเรื่องราวของมัลติเวิร์ส เพราะว่าเมื่อพวกเราไปพบกับสไปดี้เวอร์ชันอื่นๆพวกเราก็จะมองเห็นได้ว่าสไปดี้ทุกจักรวาลมักจะต้องพบเห็นกับเรื่องห่วยๆที่ต้องการจะพ้นเสมอตรงกับกลุ่มคำในตำนานของสไปดี้ที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง”

เริ่มแรกจะต้องบอกก่อนส่วนตัวแอดก็มีความชอบในตัว สไปเดอร์-แมน อยู่แล้วและก็ติดตามรับดูอยู่เสมอ บอกได้เลยว่าภาคนี้ทำออกมาได้แทบจะเพอร์เฟ็คในทุกๆด้าน โดยสำหรับในการเล่านับว่าทำออกมาได้ดิบได้ดีมากมายอย่างยิ่งจริงๆ มีความเข้มข้นแล้วก็มองหนักแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนดราม่าของผู้แสดงนำอย่าง ไมลส์ มอราลเลส รวมทั้งบทสำหรับพูดต่างๆที่นำมาซึ่งการทำให้ผู้ชมถ้าหากกลับไปดูภาคแรกแล้วจะมีความรู้สึกอีกแบบในทันทีทันใด

สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม

สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม ภาคต่อที่ทำให้เป็น ว่าที่ตรีภาคหนังสไปเดอร์แมนที่เหมาะสมที่สุด

หนึ่งปีภายหลังเรื่องในภาคแรก ไมล์ส โมราเลส ไม่สามารถที่จะติดต่อกับสมัยก่อนเพื่อนในภาคแรกรวมทั้ง เกวน สเตซี ที่รักของเขา แม้กระนั้นแล้วการปรากฏตัวของคนร้ายคนใหม่นามว่าสปอตที่มีพลังของหลุมมิติ ก็ได้ชักพาให้ไมล์สได้เข้ามาพัวกันและก็ร่วมมือกับเหล่าสไปเดอร์แมนอื่นในทุกจักรวาล เพื่อจัดการกับภัยร้ายซึ่งอาจจะเป็นผลให้มีการพังทลายของทุกจักรวาล

ภายหลังโซนี่ได้ขยายค่าของแฟรนไชส์ตนเอง สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม ด้วยการผลิตแอนิเมชันสไตล์งานทดสอบที่ประทับใจนักวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งมีเรื่องราวแบบมัลติเวิร์สที่แฟนบอยรอใน ‘Spider-Man: Into the Spider-Verse’ (2018) จนถึงคว้าออสการ์มาครอบครอง แน่ๆว่าทางค่ายก็ไม่คอยช้าจะต่อยอดการบรรลุผลโดยการประกาศหนังอีก 2 ภาค

เพื่อเป็นสามภาค Spider-Verseเป็น‘Spider-Man: Across the Spider-Verse’ (2023) และก็ ‘Spider-Man: Beyond the Spider-Verse’ (2024)ตัวหนังส่งให้กลุ่มคำนี้มีพลังมากยิ่งกว่าตอนไหน เพราะเขาสร้างให้ Miles เป็นสไปเดอร์แมนที่ไม่ซ้ำใคร และก็ยิ่งใหญ่กว่าทุกเวอร์ชันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เมื่อเขาเลือกที่จะฝ่าฝืนชะตาแล้วก็ระบุทางทั้งสิ้นด้วยตัวของตน

ฉะนั้นก็เลยเดาได้อย่างง่ายดายว่า ‘Across the Spider-Verse’ จะเป็นสะพานเพื่อเชื่อมไปยังภาคสุดท้ายมากยิ่งกว่าจะเป็นหนังโดดเดี่ยวที่มีข้อสรุปบริบูรณ์ในตัว แต่มันก็มีความทะยานอยากสำหรับการเล่าขนาดใหญ่ที่มีการเดินทางท่องผ่านไปถึง 6 จักรวาล สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม มีตัวละครหลวงเรื่องกว่า 240 ตัวจนถึงคนใดที่เป็นแฟนประเภทเข้มของสไปเดอร์แมนบางทีอาจจำเป็นต้องตาลาย กรี๊ดกับทุกเวอร์ชันของสไปดี้ที่แสดงตัวแบบละลานตา

อีกผู้แสดงใหม่ของหนังอย่างซูเปอร์เกิร์ล (Supergirl) จะต้องพูดว่าวางแบบมาได้จัดจ้ามากมาย และก็การได้ ซาชา แคลล์ (Sasha Calle) มารับบท ติดอยู่ร่า ซอแอล (Kara Zor-El) เครือญาติผู้น้องของซูเปอร์แมนก็ทำให้ค้างแรกเตอร์ ซูเปอร์เกิร์ลของแคลล์ถูกแปลความหมายให้มีความแข็งแกร่งแล้วก็มองบอยกว่าฉบับซีรีส์ที่สวมบทบาทโดย เมลิสซา บีนอยส์ (Melissa Benoist)

ซึ่งมันทำให้พวกเราน่าเชื่อเลยว่า เพศของชาวคริปตันมิได้มีปัญหาสำหรับการคุ้มครองโลกจริงๆแล้วก็จำต้องเห็นด้วยว่าภาพหลายมุมในหนังทำให้แคลล์ มีเสน่ห์กร้าวดวงใจกับทั้งยังชายหนุ่มๆรวมทั้งผู้หญิงได้อย่างง่ายดายเลยจริงๆจะมีติงก็เพียงแค่ ถ้าเกิดเทียบเคียงค้างแรกเตอร์ของคุณกับเดอะ แฟลชรวมทั้งกางทแมนของคีตันแล้ว หลายซีนอาจก่อให้คุณมองไม่เด่นสักเท่าไหร่

รีวิว Your Place or Mine: รักสลับบ้าน

เรื่องใหม่ที่เข้ามาตั้งแต่ตอนวาเลนไทน์ ซึ่งหัวข้อนี้ก็เป็นหนังที่เกี่ยวกับความรักแถมยังได้คะแนนแทบเต็มบน Netflix ด้วย หัวข้อนี้ได้กล่าวตัวของ เด็บบี้ หญิงสาวที่อาศัยอยู่กับ แจ็ค ลูกชายของคุณเองในแอลเอ กับปีเตอร์ที่เป็นเพื่อนสนิทกันแต่มีนิสัยแตกต่างกันสุดๆแม้กระนั้นด้วยสถานะการณ์บางสิ่งทำให้ทั้งสองจำต้องสลับกันมาเฝ้าบ้านของอีกคน 1 อาทิตย์

ฟิล์มถ่ายรูปนัวร์ชนชาติประเทศเกาหลีกับเรื่องราวการไล่ล่าที่เต็มไปด้วยเลือด ภายหลังจากแทเราสูญเสียครอบครัวอันเป็นสุดที่รักไปด้วยความสามารถของคู่อาฆาต สมาชิกกลุ่มมาเฟียยอดความสามารถอย่างเขาก็ได้ตกลงใจลอบฆ่าหัวหน้ากลุ่มปรปักษ์ แม้ว่าจะถูกละทิ้งจากพวกพ้องของตนจนกระทั่งจำเป็นต้องหนีไปหลบซ่อนบนเกาะเชจูก็ตาม

ตัวหนังมิได้มีบทดราม่าหนักจนกระทั่งเหลือเกิน พวกเขายัดเยียดข้อหาอารมณ์ขันรวมทั้งฉากแอ็คชั่น สลับกันไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเครียดกระทั่งเกินความจำเป็น อย่างไรก็แล้วแต่ในบางฉากจะเดินเรื่องเร็วแล้วก็ผู้ชมนิดหน่อยบางครั้งก็อาจจะงงงวยบ้างบางส่วนทำให้ทั้งสองได้ทำความเข้าใจของใหม่ๆและก็บางทีอาจศึกษาค้นพบได้ว่าสิ่งที่เราเองอยากได้หรือขว้างรถยนต์นาคืออะไรกันแน่แน่ๆว่ามันยกเครื่อง

ในส่วนของการแบ่งบทผู้แสดง จัดว่าอยู่ในขั้นที่โอเค เหตุเพราะผู้แสดงที่มากมายทำให้การเกลี่ยบทผู้แสดงเกิดเรื่องยาก แม้กระนั้นในส่วนของหน้าที่นักแสดงทำออกมาก้าวหน้ามากมาย แต่ว่าล่ะตัวจะมีท่าทางพิเศษแล้วก็เอกลักษณ์เป็นของตนเองที่แจ่มชัดมากมายอีกทั้งเรื่องราวและก็โปรดักชันกระทั่งเปลี่ยนเป็นหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ที่จำต้องใช้กลุ่มแอนิเมเตอร์สูงถึง 1,000 คนภายในวิธีการทำโปรเจกต์นี้

ด้านงานภาพจำต้องบอกเลยว่าระดับยอดเยี่ยม อีกทั้งแสงสว่าง, สี, ลายเส้น แม้กระนั้นในฉากมีเอกลักษณ์และไม่มีเสมือนคนไหนกันแน่อย่างแน่แท้ รวมถึงการเลือกใช้สีเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ของผู้แสดง หรือการใช้แยกจักรวาลต่างๆที่ออกมาได้อย่างไม่ขัดข้อง แม้กระนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีผู้ชมบางกรุ๊ปที่รู้สึกว่ามากจนเกินไป ถ้าหากผู้ชมสามารถตามรวมทั้งรับไปกับมันได้ นี่เป็นภาพยนตร์ที่ให้ประสบการณ์ด้านภาพได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นรอยด่างด่างอย่างโชคร้ายเป็นการควบคุมการแสดงที่จำต้องพูดว่าเข้าขั้นหายนะอย่างยิ่งจริงๆ แม้ว่าการได้ แอฟเฟล็ก, คุณครูซ และก็ ฟิตช์เนอร์ จะช่วยทำให้หนังมองมีภาษีทดแทนภาพของหนังเกรดบีของมันได้บ้าง แต่ว่าในฉากที่ควรมีตัวประกอบเยอะมากๆมองเห็นได้เลยว่าโรดริเกวซไม่ละเอียดกับการดูแลถึงขั้นที่พวกเรามองเห็นดาราบางบุคคลเสมือนทราบก่อนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือภาพของดารา

หนังบางบุคคลที่เพียงแค่ถือปืนก็ยังมองไม่น่าเชื่อถือเลยแล้วก็มันพินิจได้ง่ายๆเมื่อได้ดูผ่านหน้าจอของโรงหนัง สรุปแล้วนับว่าเป็นงานหนังทริลเลอร์ที่มองเอาบันเทิงใจพอใช้ครับผม แม้กระนั้นจำต้องทำใจกับความไม่เหมือนจริงสำหรับในการดูแลของโรดริเกวซแล้วก็บทหนังที่มีช่องโหว่จนกระทั่งผู้ชมบางคนบางทีอาจทำใจเชื่อตามมิได้สักเท่าไหร่

สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม

รีวิว True Spirit: ทรู สปิริต

ดูแล้วรู้สึกฟีลกู้ดที่ได้ร่วมลุ้นรวมทั้งเสี่ยงภัยตลอดทาง กับเรื่องราวที่ผลิตขึ้นจากข้อเท็จจริงของ เจสสิก้า วัตสัน หญิงสาวหวานใจการเสี่ยงภัยมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งยังเป็นนักเดินทางสำรวจทะเลที่มีเป้าหมายต้องการจะล่องเรือออกสมุทรไปรอบโลก รวมทั้งเป็นคนแรกที่แก่ต่ำที่สุด แน่ๆว่าใครอีกหลายๆคนไม่เห็นด้วยและก็คิดว่าคุณทำไม่เสร็จ แม้กระนั้นด้วยการช่วยสนับสนุนจากครอบครัวแล้วก็ผู้ฝึกสอนเบน ไบรอันต์

เพียงพอมีภาค 2 มาต่อยอดก็ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น รวมทั้งบางทีอาจพอนิยาม ‘Extraction’ ได้ว่า เป็น ‘Black Hawk Down, but John Wick’ ในภาคนี้นอกเหนือจาก คริส เฮมเวิร์ธ (Chris Hemsworth) จะมารับบทเดิม ไทเลอร์ เรก ที่เกือบจะโชว์ลำพังในหนังภาคแรก ในภาคนี้จะได้มองเห็นผู้ช่วยอย่าง นิก ข่าน (กอลชิฟเทห์ ฟาราฮานี – Golshifteh Farahani)

ยิ่งไปกว่านี้หนังยังเพิ่มความเป็นบล็อกบัสเตอร์ โดยได้สาวบอนด์ โอลกา คูรีเลนโก (Olga Kurylenko) จาก ‘Quantum of Solace’ (2008) และก็ยังได้ เหนื่อยริส เอลบา (Idris Elba) จาก ‘Thor’ มารับบทสำคัญที่บางทีอาจมีผลต่ออนาคตของแฟรนไชส์ ซึ่งอาจจะจำต้องขอให้ไปรับดูในเรื่องคุ้นเคย ใบ้ได้เพียงว่าคูรีเลนโกมาช่วยเพิ่มมิติมนุษย์ให้พระเอก ส่วนเอลบามาขยายจักรวาลของเรื่องให้กว้างขึ้นไม่แตกต่างจาก นิก ฟิวรี ในมาร์เวล

ฝั่งตัวร้ายในภาคนี้ก็เพิ่มดีกรีความไร้มนุษยธรรมได้น่าดึงดูดตลอดตัวร้ายหลักอย่าง ทอร์นิเก โกกริเชียนี (Tornike Gogrichiani) ที่มีภูมิหลังเฟียและก็เจ้าลัทธิที่ทำให้ผู้ติดตามยอมมอบชีวิตให้ โดยมีมิตินักแสดงที่น่าดึงดูดไม่ใช่แค่ตัวร้ายสีดำแข็งทื่อๆส่วนในฝั่งลูกสมุนสายบู๊ก็ยังได้สายสตันท์แมนอย่างเช่น แดเนียล กางร์นฮาร์ดต์ (Daniel Bernhardt)

รวมทั้งตัวแสดงแทนของเฮมเวิร์ธอย่าง จัสติน โฮเวลล์ (Justin Howell) ก็ได้มารับบทข้างหน้าเต็มกำลัง รวมทั้งนักมวยปลุกปล้ำอาชีพ เลวาน ซากิท้องนาชวิลี (Levan Saginashvili) ซึ่งจำเป็นต้องกล่าวว่าหนังวางแบบแต่ละนักแสดงให้มีจุดแข็งในฉากแอ็กชันเจริญ สไปเดอร์แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม ยิ่งซากิทุ่งนาชวิลีนี่เป็นดึงจุดแข็งร่างกายใหญ่มหึมาเปลี่ยนเป็นรถถังติดปืนกลเดินได้เลย

Luther: The Fallen Sun: ลูคุณร์: อาทิตย์ตกดิน

เรื่องใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับการสอบปากคำอย่างเข้มข้น ถ้าหากคนใดเคยมองซีรีส์หัวข้อนี้ก็บางทีก็อาจจะคุ้นๆกันบ้าง แต่ว่าประเด็นนี้มาเล่าต่อเป็นภาพยนตร์กับเรื่องราวของฆาตกรโรคจิตในลอนดอน ที่ได้สายสืบฝีมือเยี่ยมอย่าง จอห์น ลูคุณร์ ภายหลังที่เขานั้นติดอยู่ในตาราง และก็ถูกหลอกด้วยผู้กระทำผิดกฎหมายในโลกไซเบอร์ที่เขาล้มเหลวจากการเข้าจับกุม เขาก็เลยได้ตกลงใจหนีออกจากคุกเพื่อออกมาสืบรวมทั้งตามจับคนร้ายคนนนี้ให้ได้

กับเรื่องราวที่ร่วมลุ้นรวมทั้งคลี่คลายปัญหาไปร่วมกันแล้วก็น้องชายของคุณ แยซ (อดัม เบสซา – Adam Bessa) ที่เคยแสดงตัวในภาคแรกมาแล้วจะมีหน้าที่มากยิ่งขึ้นขนาดเป็นตัวนำร่วมได้เลย แล้วก็มีฉากโชว์ความเชื่อมโยงญาติเชื้อสายข่านที่ทำเป็นน่าจำมากมายด้วยคุณก็เลยมีความเชื่อมั่นและก็เริ่มเริ่มเดินทางตามลำพังถึง 210 วันไปยังทะเลอันกว้างขวางนี้

รวมทั้งในสองทีแรกๆที่ถ่ายทอดเคมีพระ-นางก็ลั่นเปรี้ยง เป็นคงจะโคจรมาพบกันตั้งนานแล้วจริงๆนะ แต่ว่าก็จะต้องรอดูไปอีกล่ะจ้ะว่าสองคนนี้จะประคับประคองการแสดงให้ผู้ชมได้ชื่นบานเท่าไร และก็จะมีเสียงเรียกร้องให้ทั้งคู่คนกลับมาร่วมงานกันอีกแบบที่เคยเกิดขึ้นกับ อีจุนโฮแล้วก็อีเซยอง เสมือนเมื่อครั้งที่ ‘The Red Sleeve’ ดังมากมายๆหรือไม่ ส่วนตัวนักเขียนนั้นมีความรู้สึกว่ามีลุ้น เพราะว่าเคมีที่มองเห็นเข้ากันได้

ซึ่งในที่ที่นั้น เขาก็ได้เจอกับ แจยอน หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความหดหู่จากการที่ถูกโรคร้ายกัดรับประทานอายุขัยรวมทั้งสามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นาน เมื่อผู้ที่จะต้องดำรงชีวิตอยู่บนด้ายกับผู้ที่สิ้นหวังกับชีวิตได้มาเจอกัน ก็ได้ก่อกำเนิดเป็นแรงกระตุ้นเพื่อมีชีวิตอยู่ถัดไป ท่ามกลางการไล่ล่าอันแสนอันตราย น่าลุ้นระทึก แล้วก็เข้มข้นกรีดแล้วก็อดกล่าวคำว่า “มันบ้าเหลือเกินแล้ว” มิได้จริงๆ

ในด้านการดูแลของโรดริเกวซ ในฉากแอ็กชันอย่างฉากชิงทรัพย์ที่หากแม้ไม่ตูมตามแม้กระนั้นมองมีรสนิยมก็ทำให้ผู้ชมลุ้นตามได้อย่างง่ายๆหรือเทคนิกพิเศษด้านภาพที่อดนึกถึงหนังอย่าง ‘Inception’ ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) มิได้ก็ทำให้งานภาพของหนังมองน่าระทึกใจไม่เสียชื่อเสียงผู้กำกับหนังแอ็กชันที่เชี่ยวชาญในแวดวงมานาน

ในที่สุดนี้เป็นสิ่งที่พวกเราบางทีก็อาจจะบอกแบบเต็มปากเต็มคำมิได้ แม้กระนั้นอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของ แอนดี มูสเช็ตตำหนิ (Andy Muschietti) ผู้กำกับหนังว่าเขาอยากได้ชมเชยเป้าหมายของ แซค สไนเดอร์ (Zack Snider) ที่เคยคิดแผนให้กับจักรวาล DC ซึ่งก็แน่ๆว่า เซอร์ไพร์สดังที่กล่าวมาข้างต้นก็อยู่ในคำบอกเล่านี้ด้วย หรือจนกระทั่งภาพยนตร์และก็ซีรีส์ในจักรวาลฮีโร DC ต่างๆก็อดทำให้ผู้ชมที่เป็นแฟนคลับของ DC

ยิ่งไปกว่านี้หนังยังมีอีสเตอร์ เอก (Easter Egg) ในฉากช่วงท้าย เอนด์เครดิต ที่บอกได้เลยว่ากรี๊ดกันคอแตกแน่ๆ หนังเข้าฉายตั้งแต่รอบ 19.00 น. ในวันที 14 เดือนมิถุนายนนี้ทุกโรงหนังอีกทั้งระบบธรรมดา IMAX และก็ 4DXเหมาะดีไม่คัดค้านสายตาอะไรก็ตามเลย รวมทั้งเรื่องราวที่ตบท้ายแล้วก็เผยแบบอย่างในตอนหน้าไว้นั้น omg666 ก็น่าติดตามและก็เป็นโอกาสของซีรีส์ที่น่าดูในวันพักเรื่องถัดไปซะด้วยสิ